วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

ช่วยด้วย !! จะเตรียมชุดไปตะลุยหิมะ ยังไงดี


ช่วยด้วย !!   จะเตรียมชุดไปตะลุยหิมะ  ยังไงดี




การแต่งตัว

1. ชั้นในสุด ชุดลองจอนแนบเนื้อทั้งตัว  หรือ อาจใช้ชุด Heat  tech  Uniqlo  ใส่ให้แนบเนื้อพอดีตัว อย่าเลือกตัวใหญ่มากไป เพราะหากไม่แนบเนื้อ เวลาลมแรงๆจะหนาวมากๆ





2. ชั้นกลาง เสื้อยืดแขนยาวปิดคอแบบคอเต่า แบบหนาไหมพรม+กางเกงขายาวลูกฟูก หรือ  กางเกงยีนส์ (ผ้าหนาๆ) (ถ้าไปเล่นสกีวันไหน อาจต้องใช้กางเกงผ้าร่มแทนกางเกงยีนส์  เพราะหากล้มบ่อยๆ  กางเกงยีนส์จะซึมน้ำเปียกได้)


3. ชั้นนอก เสื้อกันหนาว+กางกางขายาว ที่กันน้ำ และ กันลมได้ แบบทีพองๆเป็นปล้องๆ อะครับ อันนี้มีหลายยี่ห้อ ทั้งแบบแบรนด์เนม เช่น  Bossini, Defry, Elle  หรือ  แบบตลาดๆ ประตูน้ำ  หลังการบินไทย  แพลตตินั่ม  ยูเนียนมอลล์ (เสื้อ pre order มักมาจาก จีน ไต้หวัน)



4. หมวกที่ดึงลงมาปิดหูได้  (หรือ ที่ปิดหูครอบ นานๆอาจกดหูเจ็บหูได้) ผ้าพันคอ หรือ ปลอกคอ  ที่ดึงขึ้นลงมาปิดคอ ปาก จมูก...  (อันนี้หาซื้อตาม Family Mart / 7-11 ที่โน้นก็ได้) ปิดให้หมด .... ไม่งั้นจะมีน้ำมูกไหลเยิ้มได้โดยไม่รู้ตัว   อายเค้า ++



5.  ถุงมือหนัง เท่าน้ันนะครับ ต้องเป็นถุงมือหนังที่น้ำซึมเข้าไม่ได้ครับ ... ถุงมือแฟชั่นสวยๆ เอาไว่ถ่ายรูปอย่างเดียว  หรือ ถุงมือเล่นหิมะที่เป็นผ้าแล้วข้างในเป็นขนเป็ด เล่นปั้นหิมะไปซักพัก น้ำจะซึมเข้าถึงมือครับ ไม่งั้นเปียกถึงมือจะหนาวมาก ต้องเปลี่ยนถุงมือครับ)

บางคนบอก  ถุงมือยางที่แพทย์ใช้  ใส่ไว้ใช้ในสุดก็กันมือเปียกได้ดีนะเออ  .... ยังไม่เคยลองแหะ






6. ถุงเท้าหนาๆ + รองเท้าบูทที่กันน้ำ และปิดคลุมเท้า หุ้มส้นได้มิดชิดนะครับ  ไม่งั้นเวลาหิมะเข้าเท้า  แล้วไม่ยอมเคาะมันออก  เวลามันละลาย เท้าจะเปียก หนาวมากๆ  และก็ เหม็นเท้ามากๆด้วย

 รองเท้าลุยหิมะดีๆ  มักเป็นยี่ห้อจากต่างประเทศ ต้องไปช้อปที่โน้นก็จะดี (ถ้ามีเวลาแวะ) เช่น  
The Northface (รุ่นที่เขียนว่า  Vibram ซึ่งแปลว่า พื่้นรองเท้ากันลื่น), 
Columbia, Timberland, Ecco, 
Adidas (รุ่น  Gore Tex แปลว่า  กันน้ำได้),

ควรซื้อรองเท้าและหัดใส่ให้คุ้นเคยนะครับ  จะได้ไม่กัดเท้า
 อาจจะซื้อ สายรัดพื้นรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะ มียางกันลื่นและตะขอคล้ายตะปูยื่นมาเกาะกับหิมะ ที่เรียกว่า  Shoe Grip หรือ ภาษาญี่ปุ่น คือ  ซูเบอริโดเมะ  Suberidome  ท่องไว้ !!! 
ขายตามร้านรองเท้าในสนามบินนิวซิโตเซะ หรือ ร้านสะดวกซื้อบางที หรือ บางโรงแรม  ราคาประมาณ 1,000 กว่าเยน  ใช้ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ พื้นก็จะเริ่มสึกหรอไป

ข้อแนะนำในการเดินบนหิมะ คือ เดินบนหิมะดูดูใหม่ๆ ดูฟูๆขาวๆ หนาๆ จะไม่ค่อยลื่น   ..... ระวังหิมะที่ดูดมันๆวาวๆคล้ายน้ำแข็งเล่นสเก็ต หรือที่คนเหยียบย่ำมานานๆแล้ว จะลื่นปรื้ดหัวทิ่มเลยทีเดียว  เดินก้าวช้าๆ  ค่อยๆถ่ายน้ำหนักไปทางเท้าเข้าหน้า



                                  Suberidome ซูเบอริโดเมะ   หรือ   Shoe Grip


สิ่งจำเป็นอื่นๆ ที่ควรแพคติดประเป๋าเดินทาง

  • ครีม/โลชั่นถนอมความชุ่มชื่นของผิวหน้า ผิวกาย และมือ หากไม่คุ้นเคยกับลมหนาวและอากาศแห้ง ขอแนะนำให้ใช้ครีม/โลชั่นสำหรับเมืองหนาว น้ำมันมะกอก
  • ลิปบาล์มหรือลิปกลอส ปิโตรเลียมเจลทาปาก
  • ครีม/โลชั่นกันแดด แม้ฤดูหนาวถึง 0 องศา แต่ในบางแห่งก็อาจมีแดดในตอนกลางวันได้เช่นกัน 
  • น้ำตาเทียม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใส่คอนแท็กเลนส์หรือมีปัญหาตาแห้ง
  • ยาแก้ไข้หวัด ยาแก้แพ้อากาศ และยาประจำตัว
  • แว่นกันแดด  เพราะหิมะสีขาวมักสะท้อนแสงแดดเข้าตาเราได้ มองนานๆสายตาอาจได้รับแสงมากเกินไปได้
  • แผ่นเจลร้อน 


อุปกรณ์เสริมสำหรับไปขึ้นเขา ขึ้นดอย หรือเล่นสกี

  • แว่นกันลม สำหรับการไปเล่นสกี หรือปีนเขา ปีนดอยที่มีลมพัดแรง
  • ถุงมือสกี ซึ่งมีความหนากว่าถุงมือปกติและยังสามารถกันน้ำได้


แต่อย่างไรก็ดี ..... อย่างเพิ่งใส่ชุดซะเต็มยศ  ตั้งแต่สุวรรณภูมินะครับผม  ... รับรอง เหนื่อยโฮกแน่นอน .... 5555

ใส่บางส่วนก่อน เช่น เสื้อชั้นกลาง กางเกงยีนส์ ..... เสื้ออันในหรือนอกสุด  ใส่กระเป๋าตะหาก แล้วแยก Carry-on เดินขึ้นเครื่องไป .... แล้วพอบินไปถึง  ลงเครื่องบิน แล้วค่อยไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำแปลงร่างเต็มยศที่โน้นกันนะครับ 





วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

ฮาโกะดาเตะ Hakodate บรรยากาศยุโรปบนดินแดนซามูไร แล้วจะหลงรักเหมือนผม




ฮาโกะดาเตะ  Hakodate บรรยากาศยุโรปบนดินแดนซามูไร แล้วจะหลงรักเหมือนผม


เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ผมยังประทับใจไม่รู้ลืม  เพราะอะไรนะหราครับ เพราะไม่เคยนึกว่าบนดินแดนซามูไรแห่งนี้จะมีดินแดนที่ได้รับอารยธรรมจากยุโรปที่หลงเหลือมากมายจนปัจจุบัน  บรรยากาศโรแมนติคมากเลยครับ  รับรองว่าคู่รักที่มาที่นี่ด้วยกันจะยิ่งรักกันมากขึ้นเลยครับ

ฮาโกะดาเตะ เปิดเป็นเมืองท่าติดต่อค้าขายกับต่างชาติ ตั้งแต่ปี 1854 ตามสนธิสัญญาคานาคาวะ ระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกา  จึงไม่แปลกที่จะได้กลิ่นอายของยุโรปตะวันตกในดินแดนแห่งนี้

การเดินทาง  
นั่งรถไฟ JR Super Hokuto スーパー北斗 (函館行) จาก Supporo ไปยัง Hakodate 
ใช้เวลา 3.19 ชม.
ราคาต่อเที่ยวอยู่ที่ 8,790 เยน ดังนั้น หากคิดว่าจะไป Hakodate ให้ซื้อ Hokkaido rail Pass จะคุ้มกว่ามากครับ
Tips: จองที่นั่งขาไปจากซัปโปโรให้นั่งฝั่งซ้าย จะผ่านเมือง Chitose  รถไฟจะวิ่งเลียบทะเล (Uchiura Bay) 内浦湾 และยอดภูเขาแฝด Komagatake駒ケ岳 ได้วิวสวยกว่า  อีกฝั่งนึงจะเป็นวิวกำแพงหินตลอดทางครับ

สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเมืองฮาโกะดาเตะ

MOTOMACHI  PARK  元町

          เนินโมโตมาชิ  ตั้งอยู่ในเขตเมืองใหม่ เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญในเมืองมากมาย  ทั้ง

ที่ทำการหลังเก่าของรัฐบาล Hokkaido (Former Branch Office of the Hokkaido)

ศาลาประชาคมเมืองฮาโกดาเตะ (Old Public Hall of Hakodate  Ward)  旧函館区公会堂

พิพิธภัณฑ์ชนเผ่าเหนือ (City Museum of Northern Peoples)

กลุ่มศาสนสถานต่างๆ เช่น  วัด  Higashi Honganji, โบสถ์  Russian  Orthodox  Church,  

Motomachi  Roman  Catholic  Church



นั่งรถรางสาย 5 ลงที่ป้าย Suehirocho 末広町 (D21)  แล้วเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ประมาณ 300m

Old Public Hall of Hakodate  Ward



    Russian  Orthodox  Church




MT.  HAKODATE  ROPEWAY

                 จุดชมวิวบนยอดเขา Mt. Hakodate  ถือเป็นวิวกลางคืนที่สวยที่สุด  ติดอันดับ  1  ใน  3  ของ

    โลก (อีก 2 แห่ง คือ อ่าววิกตอเรีย ฮ่องกง กับ เมืองเนเปิล ประเทศอิตาลี)


     เลยทีเดียว   ถึงขนาดได้รับ  รางวัล  3  ดาวมิชชิลิน  กันเลยทีเดียว  มองลงมาที่อ่าวฮาโกะตาเตะที่

      เป็นรูปโค้งเว้าตรงกลางหากัน สวยทั้งในยามกลางวัน และ ตอนพบค่ำช่วงพระอาทิตย์ตกดิน  (นัก

      ท่องเที่ยวจึงมักหาโอกาสไปชมทั้ง  2  บรรยากาศนี้สักครั้งในชีวิตเมื่อเดินทางไป Hakodate)


      เปิด   10.00 - 22.00  น. (ฤดูหนาวถึง  21.00 น.)

      เที่ยวเดียว  680  เยน      ไปกลับ   1,160  เยน

       เดินจากป้ายรถราง  Jujigai   600  เมตร   หรือ  จากเนิน Motomachi   700  เมตร  หรือ  นั่ง

       แท็กซี่จากท่าเรือ  600  เยน   5  นาที  หรือ นั่งรถบัสจาก Hakodate Station ไปเที่ยวละ  360 เยน 

       www.334.co.jp/eng/



KANEMORI  RED  BRICK  WAREHOUSE 金森赤レンガ


             โกดังอิฐแดงเก่าแก่  ปัจจุบันเหลือ  5  หลัง  ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร  โรงเบียร์  ร้านขายของที่

     ระลึก  เดินชมวิวเล่นได้บรรยากาศโรแมนติคเลยทีเดียว


      เปิด   10.00 - 22.00  น. (ช่วง่ทศกาลจะปิดดึกขึ้นเป็น  22.00 น.)


       เดินจากป้ายรถราง  Jujigai   ลงไปทางชายทะเล   350  เมตร   

YUNOKAWA  ONSEN   เมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของฮาโกะดาเตะ  

   (อยู่ใกล้ Botanical garden onsen ลิง ด้านล่าง)

GORYOKAKU  FORTRESS   PARK AND   TOWER   函館五稜郭タワー


                    ตามชื่อ โกเรียวคากุ แปลว่า  ป้อมปราการดาว 5 แฉก สร้างในสมัยของโชกุุนโทกุกาวะ   

เพื่อเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายสาธารณรัฐ Ezo ของโชกุน  ตั้งรับการสู้รบกับ ฝ่ายจักรพรรดิ์ญี่ปุ่น  ใน

สงครามกลางเมือง  Boshin  ซึ่งฝ่ายโชกุนพ่ายแพ้ในที่สุด   ปัจจุบันเหลือแต่กำแพงดินห้าแฉก  ใน

      หน้าใบไม้ผลิที่นี่จะบานสะพรั่งไปด้วยดอกซากุระมากมาย  เป็นที่ชมซากุระ ฮานามิ ที่ขึ้นชื่อของเกาะ

      ฮอกไกโดเลยทีเดียว  (ซากุระที่นี่จะบานช้ากว่าที่ใดๆในญี่ปุ่น คือ เดือนพฤษภาคมของทุกปี  เพราะ

อากาศที่หนาวเย็น)

                  หอคอยโกเรียวคากุ  สูง  107 เมตร  สร้างขึ้นปี  2006   แทนหอคอยหลังเดิม  เป็นจุดชมวิว

มุมสูงของฮาโกะดาเตะ  มีขายของที่ระลึก  ห้องจัดนิทรรศการ  ร้านอาหาร

สะพานข้ามไปป้อมเปิด 9.00 ถึง  19.00 น.   พิพิธภัณฑ์เปิดถึง  17.00  น.

หอคอย  เปิด   08.00 - 19.00  น.   

 ราคา  880   เยน

การเดินทาง  จาก Hakodate Station  นั่งรถรางสาย 2 หรือ  สาย 5  มาลงที่ป้าย  Goryokaku-
  
     mae 10-15 นาที  เดินขึ้นเหนือไปประมาณ  750   เมตร  หรือ  แท็กซี่จาก  JR  Hakodate 

    ประมาณ  1,600  เยน

               


ASAICHI  MORNING  MARKET


  อยู่ทางด้านขวามือของ Hakodate Station เลย ข้ามถนนไปนิดนึง เปิดตั้งแต่ ตี 5 ยันประมาณ

เที่ยงวัน  เป็นแหล่งอาหารทะเลสดของอ่าวฮาโกะดาเตะ มาถึงแล้วต้องไม่พลาดกับข้าวหน้า

ปลาดิบ หรือ ดอนโบริ  และ ปลาดิบ Sashimi สดๆอย่างบอกใคร  และ ที่อาจจะดูโหดไปนิดแต่มี

จริงๆ เฉพาะที่นี่ คือ การเฉือดปลาหมึกที่มีชีวิตสดๆ ยังดิ้นกระดุกกระดิกอยู่เลย แล้วโรยโซยุลง

บนตัวปลาหมึก สดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ววว ยื้ย




TUBBING  MONKEY AT  TROPICAL BOTANICAL  GARGEN
Onuma Park  อุทยานโอนุมะ 



ทะเลสาปโอนุมะกลายเป็นนน้ำแข็งแผ่นหนา  มีกิจกรรมหลากหลายที่สามารถทำได้ในฤดูหนาวเท่านั้น "การตกปลาวาคาซากิ (ปลาสเมลท์) ในน้ำแข็ง" เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยม ผู้ตกปลาจะเจาะรูในน้ำแข็งเพื่อให้สามารถดึงปลาออกมาได้  นำปลาตัวเล็กตัวน้อยเหล่านี้ที่นำมาทอดเทมปุระ 

 คุณสามารถขับขี่รถเล็กสำหรับวิ่งบนหิมะ รถบักกี้ และรถเลื่อนไปบนผิวหน้าของน้ำแข็ง 

       นั่งรถไฟจาก JR Hakodate ไปไม่น่านประมาณ  20 นาที

http://www.onuma-park.com/winter.html




การเดินทางในฮาโกะดาเตะ


ใช้รถรางที่มีสองสายซึ่งวิ่งช่วงแรกในเส้นทางเดียวกัน  เริ่มจาก Yunokawa Onsen  ทางตะวันออก 

       ผ่านป้อมโกะเรียวคะคุ ตรงมุ่งหน้ามาทางย่านเมืองเก่า มุ่งหน้าไปยังเชิงเขา Mount Hakodate ผ่าน

       JR  Hakodate  จนถึงป้าย Jujigai แล้วแยกเป็น 2 สาย คือ

                 สาย  2  ไปทาง  Yuchigashira ทางตะวันตกเฉียงใต้

                 สาย  5   ไปทาง Hakodatedokumae ทางตะวันตกเฉียงเหนือ  แถบเนิน Motomachi 






การขึ้นรถราง  เมื่อขึ้นแแล้วรับตั๋วเก็บไว้  ตอนลงให้ใส่ตั๋วเข้าในเครื่องแล้วจ่ายค่าเดินทาง ครั้งละ 200 

เยน  หากต้องเดินทางหลายครั้งในหนึ่งวัน สามารถซื้อเป็นตั๋ว  Street Car 1 day  หรือ 2 day pass 

     ราคา  600 เยน หรือ  1,200 เยน ตามลำดับ  ซื้อได้ที่  Twinkle  plaza  ใน JR  Hakodate








ร้านอาหารแนะนำใน Hakodate

มาถึงทะเลญี่ปุ่น ก็เป็นอันต้องกินซูชิและซาชิมิอาหารทะเลให้ได้  ไม่งั้นคงโดนล้อแน่เลยว่าไปถึงที่แล้ว แล้วไม่ได้กินอาหารทะเล




ซิโอะราเมน (ราเมนเกลือ)  ในแบบฉบับเฉพาะของ Hakodate



ลัคกี้ เปียโรต์


เป็นร้านโปรดของผม อยากจะกินอะไรก็อร่อยไปหมด! มีสาขาเฉพาะในฮาโกะดาเตะเท่านั้น  เป็นฉอมเบอร์เกอร์อันดับ 1 ของญี่ปุ่น  ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น  ร้านนี้มีเมนูสนุกๆ เช่น แกงกะหรี่สำหรับ 8 คน (เสิร์ฟมาในจานขนาดเกือบเท่าโต๊ะ!) และเบอร์เกอร์ฟุโตะโช ก็เป็นแฮมเบอร์เกอร์ขนาดมหึมาที่ฉันกับเพื่อนกินกันบ่อย



ร้านฮาเซะกาวะ บริเวณอ่าว


ยากิโทริ เบนโตะ ในร้านค้าฮาเสะกาวะได้กลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ท้องถิ่นของฮาโกดาเตะ ว่ากันว่า เบนโตะนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อลูกค้าคนหนึ่งถามว่า "ไม่มีเบนโตะหรือ" พนักงานจึงนำสาหร่ายโนริและข้าวมาทำเป็นข้าวปั้น และนำไก่ย่างที่ร้านทำเองมาทำเป็นเบนโตะ หรือข้าวกล่อง


ของฝากขึ้นชื่อของ Hakodate


ต้องเป็นผลิตภัณฑ์จากปลาหมึก  ขนมชีสเค้ก  ไวน์  แกงกะหรี้   สาหร่าย  ผลิตภัณฑ์ คิตะขอุซางิ  




ข้อมูลเพิ่มเติม 

รายการ Japan X คุณอุ้มพาเที่ยวสกีรีสอร์ท Niseko ตอนที่ 2

รายการ Japan X คุณอุ้มพาเที่ยวสกีรีสอร์ท Niseko ตอนที่ 1

เล่นหิมะ เต็มๆวันที่ นิเซโกะสกีรีสอร์ท Niseko Ski Resort


Niseko  Ski  Resort




 NISEKO  ตั้งอยู่ระหว่าง 2 ภูเขา คือ Niseko Annupuri (1,308 M)  Yotei (1,898 M - ฟูจิน้อยแห่งฮอกไกโด
ในกิ่งจังหวัด Shiribashi (เหมือนโอตารุ) เป็นแหล่งสกีรีสอร์ทที่เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะชาว
ออสเตรเลียที่ปีๆหนึ่งมาพักและเล่นสกีที่นี่มากที่สุด  โดยเหตุที่หิมะที่นี่มีลักษณะเป็นปุยนุ่มมาก 
ที่เรียกว่า   Powder Snow   เหมาะแก่การเล่นกิจกรรมฤดูหนาวมากมาย ทั้งสกี  สโนว์บอร์ด  
สโนว์โมบิล  สเลิดลากเลื่อน   




ฉากหลังของนิเซโกะ เป็น ภูเขาโยเทอิ หรือ สมญานามว่า  "ฟูจิน้อย"  ทำให้ที่นี่มีมนต์ดึงดูดนัก
ท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย

แบ่งเป็น  4  Z0nes  ได้แก่  (เรียกว่า  Niseko  United)
A.  Annupuri
B.  Niseko village 
C. Grand Hirafu (Welcome Centre)\
D.  Hanazono  




แผนที่ของแต่ละบริเวณ






ราคาค่าเข้าลานสกี และ ลิฟท์ ค่าอุปกรณ์ในแต่ละบริเวณ






การเดินทางไปยัง นิเซโกะ








การเดินทางภายในนิเซโกะ 











ขอขอบคุณ  ..... หมอภัทร์นำเที่ยว  สำหรับสไลด์สวยๆ ที่คุณหมอแชร์ในพันธ์ทิพย์ นะครับ  

ใครชื่นชอบผลงานคุณหมอภัทร์  สามารถอุดหนุนได้ที่ สนพ.พีเพิล มีเดีย ครับ 



เวปไซท์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม


http://holidayniseko.com/niseko-weather (เช็คอุณหภูมิ  ดู LIVE CAMERA)